ธุรกิจท่องเที่ยว-เจ้าของโรงแรมฯ รวมตัวเดินหน้ารักษาพื้นที่ป่า ร่วมกับชมรมอนุรักษ์พื้นที่ป่าเขาค้อ เดินหน้าหาความจริงเรื่องผ่อนปรนรีสอร์ทในเขตป่าสงวน
ทั้งที่มีการฟ้องศาลดำเนินคดีถูกศาลลงโทษและถูกปรับรายวันยังเปิดกิจการ ทำเรื่องถามผู้ว่าฯเพชรบูรณ์หลายครั้งไม่มีความคืบหน้าทั้ง ๆที่รีสอร์ทโรงแรมที่ผิดกฎหมายอยู่ในพื้นที่ป่าสงวน และยังมีเรื่องของการบิดเบือนคำสั่งคสช.ที่ 6/62 ซึ่งเราคนไทยต้องช่วยกันอนุรักษ์พื้นที่ป่าสร้างพื้นที่ป่าให้มากที่สุดทั่วประเทศไม่ว่าจะที่ไหน แต่ที่เขาค้อตอนนี้จะเอาพื้นที่ป่าขอเป็นพื้นที่ราชพัสดุ ด้วยเหตุผลที่ต้องการเอาไปให้กลุ่มทุน ทั้งๆที่กรมป่าไม้เปิดโอกาสให้เฉพาะคนในพื้นที่ที่เป็นชาติพันธุ์ที่อยู่มาก่อนและรอส.ได้เพียง 595รายเท่านั้น เรียกร้องมากว่า 15 ปี จะไม่ยอมถอดใจเดินหน้าอนุรักษ์พื้นป่ารอยต่อเพชรบูรณ์ พิษณุโลกและเลย ไปให้ถึงที่สุด
นายประสม ประคูณสุขใจ แกนนำชมรมอนุรักษ์พื้นที่ป่าเขาค้อและเป็นเจ้าของเมาเทนพาร์ค-สวิสเซอร์แลนด์รีสอร์ท เผยถึงการเดินหน้าหาความจริงเรื่องที่ผู้ว่าฯผ่อนปรนให้รีสอร์ทในเขตป่าสงวนเขาค้อ ที่ตนเองได้เรียกร้องหน่วยงานรัฐและ ก็ถามไปทางจังหวัดโดยเฉพาะผู้ว่าฯเพชรบูรณ์คนปัจจุบันถึงเรื่องโรงแรมรีสอร์ทเถื่อนที่ผิดกฎหมายก่อสร้างอยู่ในเขตป่า ทั้งๆที่คำสั่งคสช.ที่ 6/62 ให้โรงแรม รีสอร์ทผิดกฏหมายต้องถูกดำเนินคดี แต่ปรากฏว่าผู้ว่าฯยังผ่อนปรนให้โรงแรมก่อสร้างในพื้นที่ป่าผิดกฎหมาย เปิดทำธุรกิจได้ตามปกติ ซึ่งตนเองได้เคยแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ไปหลายสิบคดีแล้วและศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกและปรับเจ้าของรีสอร์ท แต่รับสารภาพโทษจำคุกศาลจึง ให้รอลงอาญา และถูกปรับ10,000บาทและปรับเป็นรายวันอีกถ้ายังเปิดกิจการอยู่ ซี่งเจตนาของคำสั่งคสช.ฉบับนี้มีเจตนาผ่อนปรนให้เฉพาะโรงแรมรีสอร์ทที่ก่อสร้างอาคารในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น พร้อมเปิดโอกาสให้เจ้าของโรงแรมต้องมาทำให้ถูกต้อง ไม่ว่าเป็นเรื่องตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และพ.ร.บ.โรงแรม ภายใน 2ปี ส่วนโรงแรมรีสอร์ทที่ก่อสร้างในพื้นที่ป่าหรือไม่มีเอกสารสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่ได้รับการผ่อนปรนหรือคุ้มครองตามคำสั่งฉบับนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น